หลายคนอยากจะลดน้ำหนัก แต่ก็กลัวว่าจะร่างกายโทรมไปเลย ซึ่งวันนี้ทาง Justbeautyplus.com ได้นำวิธีที่ ลดน้ำหนักแบบไม่โทรม มาเสนอ เพราะใครๆ ก็อยากเป็นคนหุ่นดี สมส่วน เพราะช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะไม่ตกเป็นเหยื่อของสังคมที่มีการบูลลี่คนที่มีความแตกต่างด้านน้ำหนักตัว การแต่งตัวก็ง่ายขึ้น มีความภาคภูมิใจและเชื่อมั่นในการใช้ชีวิต
ดังนั้น ความอ้วนจึงค่อนข้างเป็นปัญหาของทุกคน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาส่วนตัว ไม่ชนะใจตัวเองในการควบคุมการกิน ไม่ขยันออกกำลังกาย สุดท้ายก็อ้วน ต้องหาทางลดน้ำหนัก ซึ่งกว่าจะประสบความสำเร็จก็มักจะผ่านวิธีการที่ผิดๆ มาบ้าง ไม่มากก็น้อย เพราะใครๆ ก็อยากลดน้ำหนักเร็วๆ มาหาวิธีลดน้ำหนักที่ได้ผลแบบไม่ทำร้ายตัวเองกันดีกว่า หลักการง่ายๆ ที่ถูกต้องก็มักจะรู้กันว่า ต้องมีการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร แล้วจะทำแบบไหนดีที่ได้ผลและไม่โทรมด้วย
หัวข้อที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
น้ำหนักเท่าไหร่เรียกว่าได้มาตรฐาน
ทางการแพทย์ใช้ “ค่าดัชนีมวลกาย (Body mass index, BMI)” เป็นตัวชี้วัดว่า ใครน้ำหนักเกิน ดัชนีมวลกายนั้นได้จากสูตรนี้
ดัชนีมวลกาย (BMI)= น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) /ส่วนสูง (เมตร) X ส่วนสูง (เมตร)
เช่น สูง 165 เซนติเมตร น้ำหนัก 68 กิโลกรัม
BMI=68/(1.65X1.65)=68/2.7225=23.87 นั่นคือ มีดัชนีมวลกาย=23.87 แล้วนำตัวเลขนี้ไปเทียบกับตารางมาตรฐานดัชนีมวลกาย ซึ่งในคนเอเชีย ควรมี BMI ดังนี้
ดัชนีมวลกาย (BMI) | ภาวะน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ |
น้อยกว่า 18.5 | น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ |
18.5 – 22.9 | สมส่วน |
23.0 – 24.9 | น้ำหนักเกิน |
25.0 – 29.9 | โรคอ้วน |
มากกว่า 30 | โรคอ้วนอันตราย |
แสดงว่า บุคคลนี้มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ น้ำหนักเกิน นั่นเอง
5 step กระชับหุ่น
แนวทางการลดน้ำหนักให้ได้ผล ควรทำตาม step ดังนี้คือ
Step 1
ทำ Food Diary คือ บันทึกเกี่ยวกับอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน เพื่อดูว่า ในแต่ละวันรับประทานอาหารเข้าไป ร่างกายได้รับแคลอรี่เท่าไหร่ เพื่อนำไปประเมินว่า หากต้องการลดน้ำหนัก ควรบริหารด้านการกินอย่างไร
Step 2
ปรับพฤติกรรมการกิน จาก Step 1 ทำให้รู้ว่าพฤติกรรมที่ผ่านมา ทำให้มีพลังงานส่วนเกินมากไปในแต่ละวันอย่างไร เมื่อเรียนรู้แล้วว่าอาหารชนิดไหนที่เราชอบกิน ให้แคลอรี่ส่วนเกินเท่าไหร่ สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ ปรับนิสัยการกิน ลดอาหารที่ให้แคลอรี่มาก หันมากินอาหารที่ให้แคลอรี่น้อยให้มากขึ้น แต่ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องโภชนาการด้วย อาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย 5 หมู่ด้วย
Step 3
การออกกำลังกาย เพิ่มการเผาผลาญพลังงาน แน่นอนว่า การควบคุมเรื่องอาหารก็จำกัดแคลอรี่ส่วนหนึ่ง แต่ถ้าจะให้น้ำหนักลดได้เร็ว ต้องช่วยใช้พลังงานด้วย เป็นการลดพลังงานกำลังสอง การออกกำลังกายนั้น ควรเลือกที่เหมาะกับสุขภาพ และไม่ทำให้ร่างกายทรุดโทรมจากการเผาผลาญพลังงานมากเกินไป เพราะจำกัดอาหารตาม step 2 ไปแล้ว สิ่งที่แพทย์มักแนะนำก็คือ ดูอัตราการเผาผลาญของร่างกาย (Basal Metabolic Rate) ว่า ใน 1 วันร่างกายมีการใช้พลังงานกี่แคลอรี่ ซึ่งกิจวัตร กิจกรรมของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน จึงใช้พลังงานประจำวันต่างกัน เพื่อวิเคราะห์ให้ได้ว่า ในวันหนึ่งๆ ควรรับประทานเท่าไหร่ เผาผลาญพลังงานเท่าไหร่ ประเมินเป็นการออกกำลังกายแบบไหนจึงจะสมดุล ทั้งนี้ในการออกกำลังกาย ควรแบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ ออกกำลังกายเพื่อใช้พลังงาน และออกกำลังกายเพื่อกระชับสัดส่วน เพราะเมื่อน้ำหนักลดลง ปัญหาที่ตามมาคือ ผิวหนังอาจจะหย่อนคล้อยได้
การออกกำลังกายลดน้ำหนักที่ดี ควรใช้เวลาในแต่ละครั้งประมาณ 15-45 นาที โดยให้มีอัตราการเต้นของหัวใจ โดยการจับชีพจร 130-150 ครั้งต่อนาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเพศและวัยด้วย ไม่ควรเลือกการออกกำลังกายที่มีการกระแทกแรงๆ การออกกำลังกายที่แนะนำคือ การเต้นแอโรบิค นอกจากนั้นควรมีการกระชับกล้ามเนื้อด้วยการเวทเทรนนิ่ง ให้ทำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 วัน
หัวใจของความสำเร็จในการลดน้ำหนัก
เชื่อว่าสำหรับคนที่น้ำหนักเกิน เคยผ่านการพยายามลดน้ำหนักมาแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ สาเหตุนั้น เกิดจากหลายเหตุผล เช่น ท้อแท้ในการลดน้ำหนัก ในที่สุดก็เลิกไป น้ำหนักก็กลับมาอีก และกลับมามากกว่าเดิม ที่เรียกว่า โยโย่เอฟเฟค ดังนั้น หัวใจสำคัญที่จะทำให้คุณลดน้ำหนักได้สำเร็จ ขึ้นอยู่กับเคล็ดลับต่อไปนี้ คือ
1. สำนึกรู้ว่า การลดน้ำหนักด้วย 3 step ดังกล่าวแล้วนั้น จะได้ผลแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะฉะนั้น ห้ามใจร้อนอยากน้ำหนักลดเร็วๆ เพราะการลดน้ำหนักที่ถูกวิธี อาจได้ผลช้าสักหน่อย แต่ยั่งยืน ถ้าไม่กังวล แต่ติดตามผลไปเรื่อยๆ เมื่อถึงวันหนึ่งจะแปลกใจว่า น้ำหนักลดได้จริง และร่างกายกระชับขึ้น
2. สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้การลดน้ำหนักประสบความสำเร็จก็คือ ใจของตัวเอง รู้จักให้กำลังใจตัวเอง มีความเชื่อ มีความหวังตลอดเวลา ไม่ท้อแท้ เบื่อหน่ายง่ายๆ แต่อาจเพิ่มกำลังใจด้วยการหาเพื่อนร่วมกิจกรรมลดน้ำหนักแบบถูกวิธีด้วยกัน จะได้ช่วยกันเชียร์ เป็นกำลังใจให้กันและกัน ฟันฝ่าอุปสรรคที่มักเกิดจากใจตัวเอง
เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ควบคุมพฤติกรรมการกินให้ได้ และออกกำลังกายให้ถูกวิธี เหมาะกับตัวเอง แล้วรอเวลาอย่างใจเย็นที่จะเห็นผลอย่างที่ใจต้องการ อย่าใจร้อนจนใช้วิธีผิดๆ ที่ทำร้ายตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนที่ผ่านมา
เพราะนี่คือ การลดน้ำหนักอย่างได้ผลดี ไม่มีทรุดโทรม ตามที่แพทย์รับรอง ลองนำไปทดลองใช้ดู เมื่อได้ผลแล้วบอกต่อๆ กันไป